บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2019

ดินน้ำมัน ทำมาจากอะไร ?

รูปภาพ
ดินน้ำมัน ทำมาจากอะไร ? วันนี้เราลองมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อยดีกว่าครับ  แน่นอนว่าใครๆก็ต้องเคยสัมผัสกับของเล่นเสริมพัฒนาการ ยอดฮิต อย่างดินน้ำมันกันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย แล้วเคยสงสัยไหมครับ ว่า ดินน้ำมัน ทำมาจากอะไร ? วิธีการทำดินน้ำมันนั้นเริ่มจากการ หลอมพาราฟิน เข้ากับน้ำมันเครื่อง จากนั้น นำแป้ง(ดินเหนียว ดินละเอียด ฯลฯ) ผสมลงไปในพาราฟิน จากนั้นนวดให้เข้ากัน สุดท้ายเราอาจจะผสมสีลงไป เพื่อให้ได้ดินน้ำมันที่มีสีตามที่เราต้องการ ตั้งทิ้งไว้ 1 คืนเราก็จะได้ดินน้ำมันที่เราต้องการ ในเวลาต่อมา ด้วยข้อบกพร่องหลายๆอย่างของดินน้ำมัน เช่น การละลาย ความแข็ง การผสมสีฯลฯ ทำให้ เกิดเป็นของเล่นที่เรียกว่า แป้งโดว์ ที่ลบข้อเสียของดินน้ำมันและมีสีสันสวยงามขึ้นมา ส่วนวิธีทำด็จะแตกต่างจากเินน้ำมันนิดหน่อย แต่ทำในทำนองเดียวกันเลยละครับ ดินน้ำมันและแป้งโดว์ นั้นมีวิธีการทำค่อนข้างหลากหลายแบบแตกต่างกันไป คล้ายๆ กับ สไลม์ เลยละครับ สูตรของใครก็ของมัน โดยแต่ละสูตรก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เพราะฉนั้น บทความนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆในทางใ

เครื่องตัวจับก๊าซพิษที่ใช้ “นกคีรีบูน”

รูปภาพ
เครื่องตัวจับก๊าซพิษที่ใช้ “นกคีรีบูน”  อุปกรณ์ที่เห็นอยู่นี้เป็นอุปกรณ์ตรวจจับก๊าซพิษในยุคเก่า แต่ที่ดูแปลกตาก็คือภายในกระจกใสนั้นเป็นนกคีรีบูนแทนที่จะเป็นเครื่องตรวจจับก๊าซพิษ นี่เป็นเครื่องตรวจจับก๊าซพิษที่ใช้นกคีรีบูนเป็นที่ตรวจจับ โดยนกคีรีบูนจะถูกใส่ลงมาในกล่อง และด้านบนจะเป็นท่อหรือรูเล็กๆ ให้นกมีอากาศหายใจ เมื่อราวๆ 30 ปีที่แล้ว คนงานเหมืองในอังกฤษมักจะเข้าไปในเหมืองโดยนำเจ้าเครื่องนี้และนกคีรีบูนเข้าไปด้วย เนื่องจากในเหมืองนั้นมักจะมีก๊าซพิษเช่นคาร์บอนมอนอกไซด์ นกคีรีบูนนั้นจะรับรู้และมีปฏิกิริยาต่อก๊าซพิษได้ไวกว่ามนุษย์ ดังนั้นหากมีก๊าซพิษ นกคีรีบูนจะมีปฏิกิริยา ทำให้คนงานสังเกตเห็นได้และรู้ว่ามีก๊าซพิษ ไม่เพียงแต่คนงานเหมืองเท่านั้นที่ใช้นกคีรีบูนเป็นเครื่องตรวจจับ หน่วยกู้ภัยที่เข้าไปช่วยคนงานเวลาที่เหมืองถล่มก็จะใช้เจ้าเครื่องนี้พร้อมนกคีรีบูนในการตรวจจับก๊าซพิษเช่นกัน จริงๆ แล้วแนวคิดในการนำสัตว์มาเป็นที่ตรวจจับก๊าซพิษนั้นมีมาตั้งแต่ยุค 1890 (พ.ศ.2433-2442) โดยมีการทดลองกับหนูและนกคีรีบูน ผลการทดลองพบว่านกคีรีบูนมีปฏิกิริยาที่ไวกว่าสัตว์อื่นและใช้การไ

ทารกมหัศจรรย์เกิด 9/11 เวลา9:11 หนัก 9/11

รูปภาพ
ทารกมหัศจรรย์เกิด 9/11 เวลา9:11 หนัก 9/11 หลังเหตุโศกนาฏกรรม 911 ผ่านพ้นไป 18 ปี ปรากฏการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้น เรื่องราวน่าแปลกประหลาด ที่พร้องกับเหตุการณ์ 911 อย่างไม่ได้เชื่อได้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมผ่านพ้นไป 18 ปี เหตุการณ์มหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาในวันหวนรำลึก 18 ปีเหตุโศกนาฏกรรม 911 เมื่อเด็กทารกน้อยคนหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยวันเวลาที่เธอถือกำเนิดขึ้นมารวมทั้งน้ำหนักเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับเหตุการณ์อย่างไม่น่าเชื่อ ถือเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ระดับโลกเลยก็ว่าได้ ทารกมหัศจรรย์ของสหรัฐเกิดเมื่อวันที่ 9/11 เวลา 9:11 น. หนัก 9 ปอนด์ 11 ออนซ์ ที่โรงพยาบาล Methodist LeBonheur ใน เจอร์แมนทาวน์ Germantown รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ในวันครบรอบการโจมตี 911 ในปีนี้มีทารกน้อยเพศหญิงถือกำเนิดขึ้นมา Little Christina Brown ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อเวลา 21:11 น. ตามเวลาท้องถิ่น เธอมีน้ำหนักแรกเกิด 9 ปอนด์ 11 ออนซ์ "เธอคือกำเนิดใหม่ท่ามกลางความพินาศและการทำลายล้าง" Cametrione Moore-Brown มารดาของเธอเปรียบเ

นมเปรี้ยว และนมบูด ต่างกันอย่างไร

รูปภาพ
นมเปรี้ยว และนมบูด ต่างกันอย่างไร วันนี้เราลองมาทำควทมเข้าใจเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อยดีกว่าครับ ก่อนจะไปทำความเข้าใจกับโยเกิร์ต เรามาเข้าใจนิยามของคำว่า นมบูด กันก่อนดีกว่าครับ นมบูดคือ นมที่เสื่อมสภาพ เนื่องจากการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่างๆ หรือการเกิดปฏิกิริยาเคมีภายในน้ำนมเอง นั้นคือสาเหตุหลักที่ทำให้นมเสื่อมสภาพ หรือที่เราเรียกว่า นมบูด ต่างกับ นมเปรี้ยว หรือว่าโยเกิร์ต โดยที่นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตนั้นเกิดจาก แบคทีเรียที่เราต้องการ (หัวเชื้อ) ไปกินน้ำตาลแลคโตส ที่มีเฉพาะในนม จากนั้นจะปล่อยกรด แลคติกออกมาทำปฏิกิริยากับโปรตีนในนมทำให้เกิดรสเปรี้ยวขึ้นมา ทำให้โยเกิร์ตนั้นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศ โดยจะให้โปรตีน สูงกว่า นมวัวปกติ ราวๆ 3 เท่า และนอกจากนี้ยังมีวิตามินต่างๆอีกมามายที่จะมาช่วยบำรุงร่างก่ยของเรา สรุป นมบูด และโยเกิร์ตนั้นหรือว่านมเปรี้ยว จะต่างกันที่จุลินทรีย์ ซึ่งนมบูด จะมีจุลินทรีย์ เกือบทุกชนิด ทั้งที่มีคุณ และมีโทษต่อร่างกาย สวนโยเกิร์ตหรือว้านมเปรี้ยวนั้น มีเพียงจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น อย่างไรก็ดี การกิน

ไอซ์แลนด์.. ประเทศไร้ยุง

รูปภาพ
ไอซ์แลนด์.. ประเทศไร้ยุง ทราบประเทศ ในโลกนี้มีประเทศอยู่ประเทศหนึ่งที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่ไม่มียุงแม้แต่ตัวเดียวมาดูรายละเอียดกันค่ะ ยุงเป็นสิ่งมีชีวิตที่นำโรคร้ายสารพัดมาสู่มนุษย์ และก่อให้เกิดการเสียชีวิตและเจ็บป่วยจำนวนมหาศาลต่อชาวโลกในแต่ละปี ในโลกนี้มียุงมากกว่า 2,500 สายพันธุ์ทั่วโลก ยุงจะชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่ชื้นเปียก  ด้วยเหตุนี้จะพบยุงน้อยลงในภูมิภาคอาร์กติกหรือแอนตาร์กติก ทำไมไอซ์แลนด์ไม่มียุง: นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากได้ทำการศึกษาอุณหภูมิของไอซ์แลนด์และผลของมันต่อยุง ตามธรรมชาติยุงสามารถผสมพันธุ์ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายรวมถึงสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นเช่น ในแอนตาร์กติกา แต่ยุงมีปัญหาในไอซ์แลนด์ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าในไอซ์แลนด์ ยุงจะได้รับการแช่แข็งสามครั้งซึ่งสามารถละลายได้ปีละครั้ง ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสำหรับยุง อีกทฤษฎีเกี่ยวกับการไม่มียุงคือ องค์ประกอบทางเคมีของน้ำและดินของประเทศไอซ์แลนด์ ทำให้ยุงไม่สามารถปรับตัวและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ ด้วยลักษณะอากาศเฉพาะของไอซ์แลนด์ ส่งผลให้ยุงผสมพันธ์ดูและวางไ

หน่อไม้โหดๆ

รูปภาพ
ทุกคนรู้จักหน่อไม้ดีแค่ไหนครับ ? วันนี้ลองมาฟัง เรื่องราวของหน่อไม้ ในอีกมุมมองที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน กับการทรมาน ด้วย หน่อไม้ 😨 ต้นไผ่นั้นจัดว่าเป็นพืชที่สามารถ โตได้เร็วที่สุดในโลก ตั้งแต่ 10 เซนติเมตรต่อวัน ไปจนถึง 40 เซนติเมตรต่อวัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ซึ่งสายพันธุ์ของไผ่ที่โตไวที่สุดในโลกนั้นคือ ไผ่ฮัมเบิล สามารถเจริญเติบโตได้ถึงวันละ 40 เซนติเมตร ด้วยเหตนี้ ทำให้มีคนหัวใส ใช้ความโตเร็วของไผ่ให้เป็นประโยชน์ (มั๊งนะ) ทำเป็นเครื่องทรมาน นักโทษ อุปกรณ์ชิ้นนี้คือ เครื่องทรมานของ คนจีนโบราณ วิธีการทรมานคือ ให้นักโทษ นอนลงบนแผ่นไม้ที่ออกแบบให้หน้อไม้ สามารถเจริญเติบโตขึ้นมาจากด้านหลังได้ ตรึงแขนและขาของนักโทษเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นได้ เมื่อเวลาผ่านไป หน่อไม้ที่เจริญเติบโตขึ้นมา จะค่อยๆแทงเข้าไปในแผ่นหลัง ของนักโทษ สำหรับผู้ที่โดนแล้วคงนับว่าเป็นความทรมาน อย่างที่สุดเลยก็ว่าได้ ทุกคนคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ช่องคอมเม้นด้านล่างนะครับ วิทย์นิดนิด เรียบเรียง 08/09/2562 เครดิต วิทย์นิดนิด จาก

สมาร์ทโฟนสามารถทำให้คุณอ้วนได้ไหม?

รูปภาพ
สมาร์ทโฟนสามารถทำให้คุณอ้วนได้ไหม? ในขณะที่เรากำลังเป็นห่วงเรื่องการควบคุมแคลอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนัก บางทีเราควรให้ความสำคัญกับการใช้สมาร์ทโฟน  📖 ในที่สุดก็ได้รู้กันแบบมีหลักวิชาการอ้างอิงกันเสียทีว่า "สมาร์ทโฟนกับโรคอ้วน" เกี่ยวข้องกัน การใช้เวลามากเกินไปกับอุปกรณ์สื่อสารตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ที่นับวันจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน อย่างสมาร์ทโฟน มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของโรคอ้วนตามข้อมูลที่รายงานจากนักวิจัย ในการศึกษากลุ่มคน 1,060 คนที่มหาวิทยาลัย Simon Bolivar ในโคลัมเบียและดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคม 2018 มีผู้หญิง 700 คนอายุเฉลี่ย 19 ปี และผู้ชาย 360 คนอายุเฉลี่ย 20 ปี ผลการวิจัยพบว่า.. ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนห้าชั่วโมงขึ้นไปต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน 43% ในขณะเดียวกัน 26% ของผู้ที่น้ำหนักเกินและ 4.6% ของผู้ที่เป็นโรคอ้วนใช้เวลามากกว่าห้าชั่วโมงต่อวันบนสมาร์ทโฟน การศึกษายังพบว่า ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนวันละห้าชั่วโมงหรือมากกว่านั้นมีแนวโน้มว่าจะออกกำลังกายน้อยลงสองเท่าและบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากข

Victoria Woodhull

รูปภาพ
Victoria Woodhull แคนดิเดตประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา ในปัจจุบัน เมื่อพูดถึงผู้หญิงที่เฉียดใกล้การเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกามากที่สุด หลายคนคงนึกถึง Hilary Clinton แต่ย้อนกลับไปกว่า 100 ปี ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เป็นแคนดิเดตประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา เธอคือ “Victoria Woodhull” Woodhull เกิดที่โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1838 (พ.ศ.2381) และเติบโตมาเป็นผู้นำกลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรีในอเมริกา Woodhull นั้นเรียกร้องให้ผู้หญิงสามารถทำงานและมีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งสามารถแต่งงาน หย่าจากสามีและเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยที่รัฐบาลไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือลงโทษ นอกจากนั้น Woodhull ยังเขียนบทความเรียกร้องสิทธิต่างๆ ซึ่งเป็นที่โต้เถียงในสังคม แต่บทบาทการเป็นตัวแทนสตรีของ Woodhull นั้นทรงพลังและมีผู้ที่ชื่นชมเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ก่อตั้งสำนักงานโบรกเกอร์ในวิลล์สตรีทซึ่งทำเงินให้เธอจนร่ำรวย อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ของตนเองอีกด้วย ด้วยชื่อเสียงและบทบาทของเธอ ทำให้เธอได้