บทความ

ออสเตรเลียฟื้นคืน

รูปภาพ
ป่าออสเตรเลียกำลังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลังจากผ่านไฟป่าอันโหดร้ายมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ชาวออสเตรเลียต้องเผชิญหน้าก้บไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ เวลาผ่านมาราวครึ่งปี หลังจากมืดมนมานานตอนนี้ท้องฟ้าสดใสขึ้นมากและไฟป่าเริ่มดับมอดลง ทั้งต้นไม้และสัตว์ที่เคยจมไปกับไฟเริ่มฟื้นตัว เผยให้เห็นธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นมาใหม่ ป่าออสเตรเลียเริ่มออกสีสันอีกครั้ง ต้นกล้าสีเขียว สีแดง มันจะดูสวยงามไปหมดหลังจากกลายเป็นเถ้ามานาน เป็นภาพที่จรรโลงใจกับชาวออสเตรเลียอย่างมากจริงๆ และพวกเขาไม่ลืมที่จะแชร์ภาพเหล่านั้นออกมาให้เราได้ชม แต่ถ้าเราพูดถึงกว่า 15.6 ล้านเอเคอร์ที่เสียไปดูเหมือนสิ่งที่ได้กลับคืนมาจะไม่คุ้มเอาซะเลย บ้านเรือนพันกว่าหลัง  25 คนตายจากไปพร้อมกับสัตว์ป่าอย่างน้อย 500 ล้านชีวิต ทั้งหมดล้วนเป็นราคาที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยแล้วฟ้าหลังฝนครั้งนี้ก็ทำให้ให้เรามั่นใจได้ว่าธรรมชาติยังคงมีชีวิต และคงจะกลับมางดงามเหมือนเดิมได้ และเหนือสิ่งอื่นใดคือสัตว์ป่าที่รอดจากไฟป่ามาได้นั้นยังคงมีบ้านให้กลับไป เครดิต science knowledge จาก blockdit

ประเพณีการเก็บศพและจัดงานศพสุดแปลก

รูปภาพ
ประเพณีการเก็บศพและจัดงานศพสุดแปลกของชาว Toraja ในอินโดนีเซีย ชาว Toraja ซึ่งเป็นชาติพันธุ์หนึ่งในอินโดนีเซียนั้นมีความเชื่อเรื่องความตายและการจัดการกับศพของญาติพี่น้องที่ไม่ค่อยเหมือนคนอื่น  ชาว Toraja นั้นเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในแถบหุบเขาในประเทศอินโดนีเซียและมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน แต่สิ่งที่แปลกสำหรับชาว Toraja คือความเชื่อเรื่องการจัดงานศพให้กับญาติพี่น้องที่เสียชีวิต เมื่อมีญาติพี่น้องในครอบครัวตาย ชาว Toraja จะไม่จัดงานศพในทันที แต่จะยังคงดูแลศพของญาติผู้นั้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นการดูแล ทำความสะอาด นำอาหารมาให้ ไม่ต่างจากตอนที่ผู้นั้นยังคงมีชีวิต พวกเขาจะดูแลศพของญาติพี่น้องจนกว่าจะมีเงินพอที่จะจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งก็มักจะใช้เวลาหลายอาทิตย์ บางรายก็เป็นปี การดูแลศพและทำเหมือนศพนั้นยังคงมีชีวิตอยู่อาจจะดูน่าขนลุกและแปลกในสายตาคนนอก แต่สำหรับชาว Toraja แล้ว นี่เป็นเรื่องปกติ ชาว Toraja จะจัดพิธีศพให้กับญาติก็ต่อเมื่อมีเงินพอที่จะจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่อลังการแล้วเท่านั้น รวมทั้งญาติพี่น้องต้องกลับมารวมตัวกันให้พร้อมเสียก่อน ซึ่งก็ต้องใช้เวลา

Hugh Glass ชายผู้รอดจากหมี

รูปภาพ
Hugh Glass ชายผู้รอดจากหมีและเดินทางเป็นระยะทางยาวไกลด้วยพลังแห่งความแค้น Hugh Glass เป็นชายที่เดินทางไปกับคณะเดินทาง ก่อนที่จะถูกหมีทำร้ายและถูกเพื่อนร่วมคณะทิ้งให้นอนรอความตายอย่างโดดเดี่ยว สิ่งที่ทำให้เขารอดมาได้คือความต้องการมีชีวิตเพื่อไปแก้แค้น Hugh Glass เกิดในปีค.ศ.1783 (พ.ศ.2326) ที่เพนซิลเวเนีย ชีวิตของเขานั้นผกผันเมื่อเขาได้ถูกโจรสลัดจับไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เขาต้องรับใช้โจรสลัดอยู่เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะหนีออกมา และมาตั้งรกรากอยู่กับชนเผ่าพื้นเมือง ค.ศ.1822 (พ.ศ.2365) Glass ได้ยินข่าวว่ามีการรับสมัครอาสาสมัครจำนวน 100 คนเพื่อเดินทางไปกับคาราวานพ่อค้าเพื่อค้าขายกับชนเผ่าพื้นเมืองในแถบแม่น้ำมิสซูรี่ ซึ่งเขาก็ได้สมัครไป ภายหลังจากที่เขาออกเดินทางไปกับคาราวาน การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น จนวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังล่าสัตว์เพื่อนำมาทำเป็นอาหาร เขาก็เกิดไปเจอกับหมีตัวหนึ่ง ซึ่งได้พุ่งตรงเข้ามาทำร้ายเขา ทั้งตะปบ ทั้งกัด แต่ Glass ก็ได้ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ รวมทั้งเพื่อนๆ ของเขาได้ยินเสียงและรีบมาช่วย ได้ฆ่าหมีตัวนั้นจนตายลงได้ ถึงหมีจะตายและ Glas

การอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวของมนุษย์เเละสิ่งเเวดล้อม ???

รูปภาพ
การอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวของมนุษย์เเละสิ่งเเวดล้อม ??? เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็หวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงที่เรายังคงมีชีวิตมี เเรงที่จะลุกขึ้นไปดูความสวยงามของมนุษย์กับสิ่งเเวดล้อมที่มีความลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ในวันนี้เราจะของเสนอสถานที่ ที่หนึ่งที่มีความลงตัวอย่างสุดๆระหว่างมุนษย์เเละสิ่งเเวดล้อมที่อยู่ร่วมกัน อย่างสะพานใน เนเธอร์เเลนด์ ที่มีชื่อว่า "อีโคดัก" สะพานสีเขียวเพื่อสัตว์ป่าได้เดินข้ามถนนอย่างปลอดภัย  เเละดูมีความสวยงามเเบบลงตัว อีกหนึ่งตัวอย่างจากประเทศสิงคโปร์ สำหรับสะพานสีเขียวนี้ หลายคนอาจจะดูว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ ในทางกลับกันเราควรมีความเอื้อเผื้อต่อสัตว์โลกที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่สัตว์น้อยก็ยังต้องอาศัยในโลกใบนี้เหมือนกันทั้งสิ้น เครดิต Science Ed

วาฬหัวคันสรที่มีอายุมากกว่า 211 ปี!

รูปภาพ
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวาฬหัวคันสรที่มีอายุมากกว่า 211 ปี! เรากำลังพูดถึงทวดของวาฬที่มีอายุมากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 25 ปี ซึ่งวาฬหัวคันสรตัวนี้อาศัยอยู่ในแถบอาร์กติกและมันน่าจะใช้ชีวิตในมหาสมุทรมาอย่างน้อยๆ 211 ปีแล้ว จากนาฬิกาพันธุกรรมที่นักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นมาเพื่อทำนายอายุขัยของสัตว์ชนิดต่างๆ วาฬหัวคันสรที่เราเพิ่งพบนี้อาจจะมีอายุได้มากถึง 268 ปี “มันน่าเหลือเชื่อที่จะมีสัตว์บนโลกที่ช่วงชีวิตยาวนานเกือบ 3 ศตวรรษ” และจากตารางสัตว์ทั้งหมดตอนนี้  ดูเหมือนว่าวาฬตัวนี้จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แก่ที่สุดในโลกไปแล้ว และอย่างที่บอกวาฬหัวคันสรที่เราพบนี้มีอายุราว 211 ปี ดังนั้นมีโอกาสที่มันจะอยู่ว่ายชื่นชมมหาสมุทรจนอายุ 300 ปีจริงๆก็เป็นได้ แล้วตอนนี้มันจะยังคงอยู่สร้างความน่าสนใจให้กับโลกเราต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีอะไรไปรบกวนชีวิตของมัน เครดิต  Science_Knowledge จาก blockdit

Valak ปีศาจแม่ชีจากภาพยนตร์ The Nun

รูปภาพ
Valak ปีศาจแม่ชีจากภาพยนตร์ The Nun ใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์ชุด The Conjuring และ The Nun ต้องคุ้นหน้าปีศาจแม่ชีหรือ “Valak” ที่ออกมาสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้ภาพยนตร์ชุดนี้อย่างแน่นอน แต่ Valak นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ เรื่องราวของ Valak นี้สามารถย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 โดยชื่อของ Valak นี้ปรากฎอยู่ในหนังสือโบราณชื่อ “Clavicula Salomonis Regis” หรือ “The Key of Solomon (กุญแจสู่โซโลมอน)” โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหนังสือเล่มนี้เป็นที่รวบรวมเวทมนตร์คาถาโบราณ การควบคุมดวงวิญญาณต่างๆ Solomon ในหนังสือนั้นก็คือกษัตริย์ Solomon นั่นเอง กล่าวว่ากษัตริย์ Solomon นั้นทรงพระปรีชาสามารถหลายด้าน หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถา และพระองค์ก็ยังสามารถปราบปีศาจได้หลายตน โดยในหนังสือเล่มนี้ก็รวบรวมรายชื่อปีศาจที่พระองค์ปราบได้ถึง 72 ตน Valak คือปีศาจลำดับที่ 62 ในหนังสือเล่มนี้ โดยมีการบรรยายว่า Valak เป็นเด็กผู้ชายที่มีปีก และขี่มังกรสองหัว โดย Valak มีพลังพิเศษในการตามหางูและสมบัติที่ถูกซ่อน และยังสามารถนำทัพปีศาจกว่า 30 ตนได

วัตถุสารที่ชื่อว่า Antimatter

รูปภาพ
การนำสสารที่เเพงที่สุดในโลกมาใช้ ??? กับวัสถุสารที่ชื่อว่า Antimatter ปฏิสสาร หรือ Antimatter เป็นสิ่งที่ประกอบด้วยอนุภาคในทำนองเดียวกับสสารปกติทั่วไป เช่น เเอนติอิเล็กตรอน เเอนติโปรตรอน นักวิทยาศาสตร์คาดการไว้ว่า หากเราจะนำปฏิสสารนี้มีใช้ จะต้องใช้เงินมากถึง 2,200 ล้านล้านบาท ต่อ 1 กรัมเลยทีเดียว นักวิทยาศาสตร์เข้าใกล้กับการนำสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลมาใช้ประโยชน์ หลังจากที่มันเป็นเพียงสสารในทฤษฏีเท่านั้น นักฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียได้คิดหาวิธีสร้างอะตอมโพสิตรอนเทียมที่เสถียรซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างเลเซอร์แกมมา รังสีแกมมาเป็นสิ่งที่ได้ จากรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตรังสีของนิวเคลียสของอะตอม การควบคุมแสงที่สว่างมาก (โดยปกติจะคลื่นที่สั้นมาก) การใช้พลังงานโฟตอนสูงสุดสามารถนำไปสู่เทคโนโลยีรุ่นต่อไปที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รังสีแกมม่าที่ผ่านการเจาะทะลุทะลวงสูงนั้นมีความยาวคลื่นสั้นกว่ารังสีเอกซ์และสามารถใช้ในการขับเคลื่อนยานอวกาศการถ่ายภาพทางการแพทย์ขั้นสูงและใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง การสร้างเลเซอร์แกมมา