บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2019

สร้าง Resume ยังไงให้ได้งาน ?

รูปภาพ
สร้าง Resume ยังไงให้ได้งาน ? - งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Old Dominion ประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า หลายบริษัทในยุคนี้มีการตัดสินใจรับพนักงานเข้าทำงานจากประวัติส่วนตัวบน Facebook มากกว่า Resume ที่ผู้สมัครส่งมาให้ - เหตุผลเพราะ Facebook ถือเป็น Platform ที่รู้จักพฤติกรรมของมนุษย์ได้ดีที่สุดในโลก เเละที่สำคัญมันรู้จักตัวตนของคุณมากกว่าตัวคุณเสียอีก - ในขณะที่่คุณเเสงเดือน ตั้งธรรมสถิต ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซด์ Jobthai.com ก็ได้ออกมาเปิดเผยจากการให้สัมภาษณ์กับประชาชาตืธุรกิจถึง "3 สิ่งที่ HR หลายองค์กรในปัจจุบันใช้ประกอบการพิจารณาก่อนรับพนักงานเข้าทำงานจาก Facebook ควบคู่กับ Resume เเละการสัมภาษณ์"  ดังนี้ - 1.รูปภาพ - ถือเป็นสิ่งเเรกที่ HR จะเข้าไปดูไม่ว่าจะจากการโพสต์ของตัวเองหรือการเเชร์ออกไป ว่ามีลักษณะอย่างไร มีความรุนเเรงเเละเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เเสดงให้เห็นถึงตัวตนเเละภาพลักษณ์ของผู้สมัคร - 2.การโพสต์ข้อความ - ว่ามีการโพสต์เนื้อหาที่ผิดกฏหมาย ของมึนเมา หรือมีการด่าทอนินทาคนอื่นหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเเสดงให้เห็นถึงทัศนคติ อารมณ์ เเละวุฒิภาวะขอ

ทำไมผีต้องชุดขาว?

รูปภาพ
ทำไมผีต้องชุดขาว? เคยสงสัยกันไหมว่า ตอนเราๆท่านๆได้ยินได้ฟังเรื่องราวลึกลับเหนือจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องผีๆ ทำไม๊ทำไม ต้องมาในพร๊อพชุดขาวผมยาวดำกลางหลัง เกือบทุกทีสิท่า แหม๊~ เอ๊ะ! หรือว่านางแอบรับหลายจ๊อบ เดี๋ยวไปหลอกคนนู้น เดี๋ยวมาหลอกคนนี้ ทำให้เป็นภาพจำไปว่าผีต้องชุดขาว !? ทำไมไม่มีผีผมบ๊อบ ใส่ชุดบานเย็น ปะแป้งสงกรานต์มาหลอกกันบ้าง เคยสงสัยกันไหม แอดเองก็สงสัยเลยไปหาคำตอบมาให้เราๆท่านๆได้ไตร่ตรองกันว่า มันพอจะอ้างอิงได้ไหม มะ เริ่มกันเลย กับเหตุผลแรก ที่ผีต้องใส่ชุดขาว และมีผมยาวสีดำนั้นก็เพราะ ตอนเผา ญาติเขาจะเปลี่ยนชุดให้เป็นสีขาว เลยทำให้เราๆท่านๆเห็นแต่ชุดสีขาวซะส่วนมาก // พอจะฟังขึ้นไหม ถ้าไม่ มาต่อกับเหตุผลที่สอง หรือสาเหตุที่ผีใส่สีขาวส่วนมาก เราต้องมองเจตนาเขาก่อน ซึ่งเอ่ยชื่อว่าผี เพื่อนๆคิดว่า ผี จะมาหาเราทำไมอะ แน่นอนนน  …. มาหลอก!!! ใช่ เขามาหลอกเรา แล้วปกติผีก็จะมามืดๆไง ถ้าใส่สีดำมา เรามองเมินไป หรือไม่ทันสังเกตเห็นเขา อาจจะทำให้ผีรอเก้อ มันจะขัดวัตถุประสงค์ของเขาไหม?    เพราะงั้นสีขาวที่ดูเด่นในที่มืดจึงเป็นทางเลือก ที่น่าจะต

ทำไมมดไม่ขึ้นโรงงานน้ำตาล?

รูปภาพ
ทำไมมดไม่ขึ้นโรงงานน้ำตาล? x เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมเพียงแค่เราเผลอเปิดฝากระปุกน้ำตาลทิ้งไว้ ไม่นานก็จะมีมดขึ้นเต็มกระปุกจนต้องอาจต้องทิ้งน้ำตาลนั้นไปเลย แล้วทำไม โรงงานน้ำตาล ที่มีน้ำตาลจำนวนมหาศาลหลายหมื่นกิโล ทำไม มดมันไม่ไปบุกกัน? วันนี้เรามาไขคำตอบกันดีกว่า สำหรับคำตอบว่าทำไมมดถึงไม่กล้าเข้าโรงงานน้ำตาลนั้น นั่นก็เพราะว่า ที่โรงงานน้ำตาลมีสิ่งนี้อยู่ไงครับ " Anti Ants "  " ... "  เข้าเรื่องกันดีกว่า ส่วนอันบนนั้นก็ขอให้ลืมกันไปละกันนะ แฮร่ สาเหตุสำคัญที่ทำให้มดไม่กล้าเข้าไปแหยมกับโรงงานน้ำตาลนั้น เหตุผลไม่ได้ซับซ้อนเลยครับ ลองนึกภาพตามนะ มดที่มันมาเกาะแกะกับน้ำตาลของเรานั้น เป็นเพราะว่า น้ำตาลกระปุกนั้น เป็นอาหารของมัน และอาหารชนิดนั้นไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิตของพวกมัน ทำให้เมื่อเราๆท่านๆลืมปิดฝาน้ำตาลทิ้งไว้  ก็จะมีกองทัพมดมาบุกชิงพื้นที่จนเห็นดำพรืดไปหมด สุดท้ายก็ต้องเลือกที่จะทิ้งน้ำตาลกระปุกนั้นไป (เสียดาย) อ้าว แล้วทำไมพวกมดถึงไม่ไปบุกโรงงานผลิตน้ำตาลด้วยละ นั้นก็เพราะ ที่แห่งนั้น มีอันตรายร้ายแรงจนขนาดต้องสังเวยชีวิตน้อยๆข

Willys Overland รถปี 1915

รูปภาพ
Willys Overland รถปี 1915 หากพูดถึงรถ Willy หลายคนอาจจะฟังแล้วไม่คุ้น แต่หากพูดถึงรถจี๊ป หลายคนน่าจะคุ้นหูและรู้จักกันดี ความจริงแล้วรถจี๊ปมีต้นแบบมาจากรถ Willys Overland ที่กำเนิดมาตั้งแต่ปีค.ศ.1915 (พ.ศ.2458) โดยตอนแรกทางบริษัทได้ทดลองผลิตรถคันเล็กที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงแต่ปรากฏว่าสามารถสร้างยอดขายถล่มทลายกว่า 80,000 คัน ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพอเมริกันต้องการรถยนต์เอนกประสงค์เพื่อใช้ในทางทหาร โดยมีข้อกำหนดว่า รถที่จะเอามาใช้งานจะต้องมีขนาดเล็ก ใช้งานสะดวก มีความคล่องตัวและสามารถบรรทุกคนได้คันละ 3 คน ซึ่งทางบริษัทก็ได้ส่งต้นแบบรถไปให้กับทางกองทัพ และก็ได้รับการอนุมัติให้ผลิตรถกับกองทัพ ต่อมารถชนิดนี้จึงถูกเรียกในชื่อว่ารถจี๊ป นอกจากนี้บริษัท Willys Overland ยังได้ผลิตรถจี๊ปรุ่นอื่นๆ ออกมาขายอีกด้วย และได้รับความนิยมมาก และเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้มีการค้นพบรถยนต์รุ่นแรกของ Willys Overland ในยุ้งฉางแห่งหนึ่ง โดยตัวรถมีสภาพที่ดีมากถึงแม้เวลาจะผ่านมานานนับ 100 ปี ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้เผยให้เห็นคุณภาพของรถยนต์ที่ผลิตเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ที่แม้ว่าเวลาจะผ่านมานา

ในแอปเปิ้ล มีสารไซยาไนด์ซ่อนอยู่ จริงหรือไม่?

รูปภาพ
ในแอปเปิ้ล มีสารไซยาไนด์ซ่อนอยู่ จริงหรือไม่? คำกล่าวที่ว่า“ แอปเปิ้ลวันละลูก ช่วยให้ห่างไกลแพทย์" ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง และนี่เป็นสิ่งที่ยกระดับให้แอปเปิ้ลเป็นซุปเปอร์ฟรุตกันเลยทีเดียว แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมและเสริมสร้างให้คุณมีสุขภาพที่ดี แอปเปิ้ลมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และเต็มไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารยกตัวอย่างเช่น วิตามินเอ บี1 บี2 บี6 ไบโอติน กรดโฟลิก เกลือแร่ เหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม แต่... เมื่อคุณกัดลึกลงไปในแอปเปิ้ลคุณจะต้องเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ไม่หวานในแก่นแท้ของมัน นั่นคือเมล็ดสีดำเล็ก ๆ ซึ่งแตกต่างจากรสหวานของแอปเปิ้ล เมล็ดสีดำเล็ก ๆ นี่แหละคือตัวร้ายเลยล่ะ ในเมล็ดเล็กๆสีดำเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า amygdalin อะไรคือ amygdalin ในเมล็ดของแอปเปิ้ลมีไซยาไนด์ ที่มาในรูปแบบของ "ไซยาโนเจนไกลโคไซด์" ที่รู้จักกันในชื่อ amygdalin ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นไฮโดรเจนไซยาไนด์ซึ่งเป็นพิษร้ายแรงที่รู้จักกันดี ในความเป็นจริงชาวโรมันใช้การเตรียมไซยาไนด์จากแอปเปิ้ลหรือผลไม้อื่น ๆ เพื่อการประหารชีวิตคนหรือใช้เป็นยาพิษเพื่อฆ่าพวกเขา

การอาบน้ำของพระเจ้าหลุยส์ที่14

รูปภาพ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) ทรงกลัวการอาบน้ำและเคยสรงน้ำเพียง 3 ครั้งตลอดพระชนม์ชีพ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสหรือที่รู้จักกันในนามพระเจ้าหลุยส์มหาราช พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุโรปถึง 72 ปี และเป็นผู้ที่สยบความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสจากการคิดกบฏของเหล่าขุนนาง ด้วยความที่พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถ จึงไม่มีใครนึกถึงความกลัวของพระองค์ นึกไม่ออกว่าอะไรคือสิ่งที่พระองค์ทรงกลัว สิ่งที่พระองค์ทรงกลัวก็คือ “การอาบน้ำ” ความกลัวเรื่องการอาบน้ำเกิดจากแนวคิดที่แพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 17 ที่กล่าวกันว่าน้ำเป็นตัวแพร่เชื้อโรค และหากยิ่งอาบน้ำบ่อยครั้งร่างกายก็จะยิ่งอ่อนแอ ดังนั้นตลอดพระชนมชีพของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระองค์จึงสรงน้ำอยู่น้อยครั้ง บางคนถึงกับกล่าวว่าพระองค์ทรงเคยสรงน้ำเพียง 3 ครั้งตลอดพระชนม์ชีพ แต่ถึงแม้จะไม่สรงน้ำพระวรกายของพระองค์ก็ไม่มีกลิ่นเหม็น เนื่องจากพระองค์มีวิธีการทำความสะอาดพระวรกายของพระองค์ นั่นก็คือ เมื่อพระองค์ทรงตื่นพระบรรทมในทุกเช้า ข้าราชบริพารจะนำสุราฤทธิ์แรงที่มีส่วนผสมของเอทานอลถึง 90 เปอร์เซ็นต์ม

แมลงวันอึใส่หน้าทำไม

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไม แมลงวันถึงต้องมาอึใส่หน้าเรา ? x วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ "ขี้แมลงวัน" เพิ่มเติมกันสักเล็กน้อยดีกว่าครับ และสำหรับใคร ที่อยากจะอ่านเนื้อหาแบบเต็มๆ ผมแนะนำลิ้งค์ด้านล่างนะครับ⏬⏬⏬ https://www.scimath.org/article-science/item/7433-2017-08-10-08-15-39 ส่วนใครที่อยากจะอ่านแบบคร่าว ก็มาเริ่มกันเลยครับ😆 จริงๆแล้ว ขี้แมลงวัน ที่อยู่บนใบหน้า หรือร่างกายใครหลายๆคนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจาก แมลงวัน มาอึใส่ เราหรอกครับ 🤔 จริงๆแล้ว ขี้แมลงวัน เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ผิวหนัง ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกๆคน โดยสาเหตุที่เซลล์ผิวหนังทำงานผิดปกตินั้น เกิดจากร่างกายของเรานั้นผลิตสาร เมลาโนไซต์ หรือ เรียกอีกอย่างว่า เม็ดสีที่ผิดปกติ ขึ้นมา (สาเหตุเดียวกับการเกิดใฝ) ทำไมร่างกายถึงผลิตเม็ดสีที่ปกติออกมา ? สาเหตุนั้นมีอยู่หลายสาเหตุมากๆ ตั้งแต่พันธุกรรม ไปจนถึงปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดดเลยครับ ถึงขี้แมลงวันส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นในจุดสำคัญๆ อย่างบริเวณใบหน้า ก็คงจะสร้างความรำคาญให้ไม่ใช่น้อย หรือในบางค

เทียนสามเล่ม...

รูปภาพ
เทียนสามเล่ม... มีเด็กชายสามคนพากันเดินเข้าไปในถ้ำที่มืดสนิท ภายในถ้ำมีเทียนวางไว้สามเล่มพอดี เทียนเล่มแรก เป็นเทียนเล่มเล็กๆ สั้นๆ เทียนเล่มที่สอง เป็นเทียนเล่มเล็กแต่ยาวกว่าอันแรกนิดหน่อย เทียนเล่มที่สาม เป็นเทียนเล่มใหญ่และยาวมาก เด็กชายทั้งสามเดินไปหยิบเทียนที่ตัวเองต้องการ ในการเดินทางภายในถ่ำ เด็กชายทั้งสามต่างอาศัยแสงว่างจากเทียนที่ตัวเองถือมา ทั้งสามเดินไปตามทางที่ตัวเองเลือกไว้ ทางที่ 1 เด็กชายที่ถือเทียนเล่มแรกเดินไปได้ไม่นานนัก เทียนก็หมดไป เขาไม่มีแสงสว่างนำทางอีกแล้ว ทางที่ 2 เด็กชายที่ถือเทียนเล่มที่สองเดินไปได้ไกลกว่าเด็กชายที่ถือเทียนเล่มแรกแค่นิดหน่อย แล้วแสงเทียนของเขาก็ดับลง ทางที่ 3 เด็กชายที่ถือเทียนเล่มที่สามเดินถือเทียนจนออกมาจากถ้ำได้ จากระยะทางที่เขาเดินเทียนเล่มใหญ่ที่อยู่ในมือตอนนี้เหลือเล่มนิดเดียว เทียนแต่ละเล่มที่เด็กทั้งสามคนเลือกก็เปรียบได้กับความอดทน พยายาม ของคนเรา หากมีความอดทนต่อให้ต้องถือเทียนเล่มใหญ่เดินไปตามทางเขาก็จะเดินไปจนถึงทางออกได้โดยที่ไม่ยอมทิ้งเทียนเล่มนั้น หากแต่คนที่ไม่มีความอดทน กลับเลือกเทียนเล

ซาราห์ เร็คเตอร์ (Sarah Rector) เด็กสาวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่รวยที่สุดในอเมริกา

รูปภาพ
ซาราห์ เร็คเตอร์ (Sarah Rector) เด็กสาวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่รวยที่สุดในอเมริกา x  ในอดีตนั้น ชาวแอฟริกัน-อเมริกันนั้นมักจะเป็นทาส เป็นพลเมืองชั้นสอง ได้รับการกดขี่จากคนผิวขาวดังที่ทุกคนอาจจะทราบกัน แต่วันนี้ผมจะเล่าเรื่องของเด็กหญิงชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนหนึ่งซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นเด็กหญิงชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่รวยที่สุดในอเมริกา เชิญรับฟังได้เลยครับ ซาราห์ เล็คเตอร์ (Sarah Rector) เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ.1902 (พ.ศ.2445) โดยพ่อแม่ของเธอเป็นสมาชิกของกลุ่มสัญญา Muscogee หรือที่รู้จักกันในนาม Creek Nation คือกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของ 5 ชนเผ่าพื้นเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ข้อตกลงของสนธิสัญญานั้นมีอยู่ว่า เมื่อโอคลาโฮมาได้ประกาศตนเป็นรัฐแล้ว สมาชิกจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนที่ดินทำกิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินที่เคยมีการซื้อขายทาส และเคยผ่านการทำเกษตรกรรมมาบ้างแล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาหลังครอบครัวจองซาราห์ได้รับที่ดินก็คือ พวกเขาต้องเสียภาษีสูงถึงปีละ 30 ดอลลาร์ (จัดว่าเป็นเงินที่เยอะพอสมควรในสมัยนั้น) ครอบครัวของซาราห์จึงตัดสินใจขายที่ดินตรงนี้ไป แต่โ

ความรู้เรื่อง... หมีขั้วโลก Polar Bear

รูปภาพ
ความรู้เรื่อง... หมีขั้วโลก Polar Bear หมีขั้วโลก นักล่าทางบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักเต็มที่ได้ถึง 1,500 ปอนด์และมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของสิงโต สูงได้ถึง 3 เมตร อายุขัยเฉลี่ย 30 ปี หมีขั้วโลกอยู่ที่ไหน? หมีขั้วโลกอาศัยอยู่ไกลออกไปทางเหนือในแถบอาร์กติกเยือกแข็ง ลำตัวถูกห่อหุ้มด้วยขนสีขาวหนาซึ่งช่วยป้องกันความหนาวแบบขั้วโลกได้ดี ขนสีขาวของหมีขั้วโลกยังทำหน้าที่อำพรางตัวในหิมะและภูมิประเทศที่เย็นจัดของอาร์กติก หมีขั้วโลกอาศัยอยู่บนน้ำแข็งในฤดูหนาวและบนบกในฤดูร้อนเมื่อน้ำแข็งละลาย บางครั้งในฤดูหนาวพวกเขาอาจอยู่ห่างจากชายฝั่ง 100 ไมล์ 📝 จำไว้ว่า หมีขาวอยู่ขั้วโลกเหนือ เพนกวินอยู่ขั้วโลกใต้ บ้านใครบ้านมัน อันนี้เด็กๆจำไว้นะคะ 📌 พวกมันกินอะไร? หมีขั้วโลกล่าทั้งบนบกและในทะเล พวกมันชอบว่ายน้ำและสามารถว่ายน้ำได้ไกลนับ 100 ไมล์เลยทีเดียว ขี้เกียจขึ้นมาก็นั่งบนแผ่นน้ำแข็งลอยน้ำแบบชิวๆ "แมวน้ำ" เป็นอาหารหลักของหมีขั้วโลก รวมถึงวอลรัส นกทะเล ปลา หมีขั้วโลกเป็นสัตว์กินง่ายอยู่ง่าย อาหารรวมไปถึงสัตว์เล็กๆและผลไม้ขั้วโลกอย่างผลเบอร์รี่ หมีขั้วโลกมักจะซ่อนตัวโดยหลุม

Wojtek หมีวีรบุรุษประจำกองทัพโปแลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2

รูปภาพ
Wojtek หมีวีรบุรุษประจำกองทัพโปแลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 x  ในสงครามนั้น ไม่เพียงแต่ทหารที่เป็นวีรบุรุษ เข้าสู้รบในสงครามเท่านั้น แม้แต่สัตว์อย่างหมี ก็ยังอาจจะเป็นวีรบุรุษที่นำพาชัยชนะและความสุขมาให้กองทัพได้เช่นกัน วันนี้ผมจะเล่าเรื่องราวของหมีตัวหนึ่ง หมีตัวนี้เป็นขวัญใจของทหารในกองทัพโปแลนด์และสร้างเรื่องราวไว้ให้เล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ มีหมีตัวหนึ่ง ชื่อว่า “Wojtek (วอยแต็ก)” ได้ถูกกองทัพโปแลนด์พบในอิหร่านเมื่อปีค.ศ.1942 (พ.ศ.2485) และทางกองทัพก็ได้นำ Wojtek มาเลี้ยงในค่าย เหล่าทหารในค่ายนั้น ด้วยความที่มักจะเครียดเรื่องการรบและในค่ายก็ไม่มีอะไรให้ทำมาก การเล่นกับเจ้าหมี Wojtek จึงเป็นอะไรที่เหล่าทหารโปรดปราน โดยทหารนั้นเอ็นดู Wojtek มาก พวกเขามักจะนำนมใส่ขวดวอดก้าเปล่าๆ มาให้ Wojtek รวมถึงหาผลไม้มาให้มันกิน และเคยให้มันลองสูบบุหรี่อีกด้วย เจ้าหมีวอยแต็กเป็นขวัญใจทหารทุกคน พวกเขาให้มันเข้ามานอนด้วย ตลอดจนเล่นรอบกองไฟในยามค่ำคืน กิจกรรมยามว่างของเหล่าทหารอีกอย่างคือการเล่นมวยปล้ำ และแน่นอน เจ้าหมี Wojtek คือคู่ท้าชิงชั้นดี เหล่าทหารมักจะเล่นมวยปล้ำกับเจ้าหมี

มาร์กาเร็ต บราวน์ (Margaret Brown) ตำนานสตรีผู้รอดจากเรือไททานิก (Titanic)

รูปภาพ
มาร์กาเร็ต บราวน์ (Margaret Brown) ตำนานสตรีผู้รอดจากเรือไททานิก (Titanic) มาร์กาเร็ต บราวน์ ตำนานการอับปางของเรือไททานิกในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) นับเป็นเหตุการณ์ที่เศร้าสลดและกลายเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในผู้รอดชีวิต 710 ราย จากผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ราย มีสตรีนางหนึ่งรอดชีวิตมาด้วย และสตรีผู้นั้นนับเป็นผู้รอดชีวิตที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด เธอผู้นั้นคือ “มาร์กาเร็ต บราวน์ (Margaret Brown) มาร์กาเร็ต โทบิน บราวน์ เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ปี 1867 ในรัฐมิสซูรี่ พ่อแม่ของบราวน์เป็นผู้อพยพชาวไอริชที่ทำงานหนักและมีฐานะยากจน เมื่อเธออายุได้ 13 ปี ก็ออกมาทำงานในโรงงานยาสูบเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว เธอได้ย้ายไปโคโลราโด เพื่อดูแลบ้านให้กับพี่น้องของเธอ ที่นั่น เธอได้ทำงานที่ร้านขายของพรมเย็บผ้าและผ้าม่านในห้างสรรพสินค้า ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างใหญ่ ผมแดง และเป็นคนโผงผาง และละแวกถิ่นที่เธอพักอาศัยก็มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในไม่ช้าเธอได้พบกับเจมส์ โจเซฟ บราวน์ (Joseph Brown) วิศวกรเหมืองแร่ เขามีอายุมากกว่าเธอถึง 13 ปี โจเซฟเป็นคน

อินโดนีเซียกำลังจะย้ายเมืองหลวง - Market Think

อินโดนีเซียกำลังจะย้ายเมืองหลวง - Market Think กรุงจาการ์ตา เป็นเมืองหลวงที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 10 ล้านคน แต่หากนับรวมเขตปริมณฑลที่มีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางกิโลเมตรด้วยแล้ว  นครหลวงแห่งนี้ก็จะมีประชากรมากถึง 30 ล้านคน แม้จะมีประชากรเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 4 ของจำนวนประชากรอินโดนีเซียที่มีกว่า 260 ล้านคน แต่กรุงจาการ์ตาก็ครองสัดส่วน GDP ถึงเกือบร้อยละ 17.5 ของประเทศ เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทน้ำมัน Pertamina ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และสำนักงานใหญ่ของธนาคารหลักๆ หลายแห่ง ตลาดหลักทรัพย์  รวมไปถึงสำนักงานของบริษัทสตาร์ตอัปยูนิคอร์นอย่าง Traveloka, Tokopedia และ Go-Jek ด้วยความที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล จึงทำให้ชาวอินโดนีเซียหลายล้านคนจากทั่วประเทศต่างอพยพเข้ามาอยู่ในกรุงจาการ์ตามากขึ้นทุกที  ระบบขนส่งทางรางในเมืองถึงแม้จะเริ่มมีแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณการใช้งาน จนทำให้เมืองหลวงแห่งนี้กลายเป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ปัญหาการจราจรติดขัดทำให้กร