ในแอปเปิ้ล มีสารไซยาไนด์ซ่อนอยู่ จริงหรือไม่?

ในแอปเปิ้ล มีสารไซยาไนด์ซ่อนอยู่ จริงหรือไม่?


คำกล่าวที่ว่า“ แอปเปิ้ลวันละลูก ช่วยให้ห่างไกลแพทย์" ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง และนี่เป็นสิ่งที่ยกระดับให้แอปเปิ้ลเป็นซุปเปอร์ฟรุตกันเลยทีเดียว


แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมและเสริมสร้างให้คุณมีสุขภาพที่ดี

แอปเปิ้ลมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และเต็มไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารยกตัวอย่างเช่น วิตามินเอ บี1 บี2 บี6 ไบโอติน กรดโฟลิก เกลือแร่ เหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียม

แต่...

เมื่อคุณกัดลึกลงไปในแอปเปิ้ลคุณจะต้องเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ไม่หวานในแก่นแท้ของมัน

นั่นคือเมล็ดสีดำเล็ก ๆ ซึ่งแตกต่างจากรสหวานของแอปเปิ้ล

เมล็ดสีดำเล็ก ๆ นี่แหละคือตัวร้ายเลยล่ะ ในเมล็ดเล็กๆสีดำเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า amygdalin

อะไรคือ amygdalin

ในเมล็ดของแอปเปิ้ลมีไซยาไนด์ ที่มาในรูปแบบของ "ไซยาโนเจนไกลโคไซด์" ที่รู้จักกันในชื่อ amygdalin ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นไฮโดรเจนไซยาไนด์ซึ่งเป็นพิษร้ายแรงที่รู้จักกันดี

ในความเป็นจริงชาวโรมันใช้การเตรียมไซยาไนด์จากแอปเปิ้ลหรือผลไม้อื่น ๆ เพื่อการประหารชีวิตคนหรือใช้เป็นยาพิษเพื่อฆ่าพวกเขา

เมล็ดก่อให้เกิดสารที่ปล่อย"ไซยาไนด์" เมื่อมันสัมผัสกับเอนไซม์ย่อยอาหารของมนุษย์ หมายความว่าอะไร? ก็หมายความว่าเจ้าสารตัวนี้จะปลดปล่อยไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายคุณทันที

แล้วไซยาไนด์ทำงานอย่างไร?

ไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่รู้จักกันเป็นหนึ่งในสารพิษที่อันตรายที่สุดในโลก มันถูกใช้ใน"สงครามเคมี" และการฆ่าตัวตาย สารประกอบหลายชนิดที่มีไซยาไนด์เรียกว่าไซยาโนไซด์พบได้ในธรรมชาติมักจะอยู่ในเมล็ดผลไม้และ Amygdalin เป็นหนึ่งในสิ่งเหล่านี้

โดยธรรมชาติแล้ว เมล็ดแอปเปิ้ลและเมล็ดผลไม้อื่นๆ จะมีกลไกป้องกันโดยธรรมชาติ กล่าวคือโดยทั่วไปมันจะมีชั้นนอกที่แข็งแรงทนทานต่อน้ำย่อย แต่ถ้าคุณไม่ว่าโดยตั้งใจหรือเผลอเคี้ยวเมล็ดมันเข้าไป

amygdalin อาจถูกปลดปล่อยออกมาแล้วเข้าสู่ร่างกายและผลิตไซยาไนด์ ซึ่งหากมีปริมาณเล็กน้อย กลไกของร่างกายมนุษย์สามารถล้างพิษโดยเอนไซม์ในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามหากรับเข้าไปในปริมาณมากอาจเป็นอันตราย และร้ายแรงที่สุด ถึงขั้นเสียชีวิตกันเลยทีเดียว

📌 ไซยาไนด์เท่าไหร่ถึงตาย?

อาการเมื่อได้รับพิษจากไซยาไนด์ ได้แก่ ปวดท้องปวดหัวคลื่นไส้และอาเจียนและอาจถึงขั้นสูงสุดคือภาวะหัวใจหยุดเต้น ระบบหายใจล้มเหลว มีอาการโคม่าและเสียชีวิต

ปริมาณที่เป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับมนุษย์อาจต่ำเพียง 1.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักตัว
ในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าปริมาณ amygdalin ของเมล็ดแอปเปิ้ลมีค่าประมาณ 3 มิลลิกรัมต่อกรัมของเมล็ด (หนึ่งเมล็ดมีขนาดประมาณ 0.7 กรัม)

คุณจะต้องเคี้ยวเมล็ดอย่างละเอียดแล้วกินเมล็ดแอปเปิ้ลประมาณ 200 เม็ดหรือเทียบประมาณแอปเปิ้ล 40 ลูก โดยมีเกณฑ์คือ เทียบกับน้ำหนักตัวที่ 70 กิโลกรัม และคิดเฉลี่ยว่าแอปเปิ้ลหนึ่งผลมีเมล็ดอยู่ 5 เมล็ด

อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และสารพันธ์ุของแอปเปิ้ลนั้นด้วย
แต่โดยเบื้องต้น ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสารพิษ Agency for Toxic Substances & Disease Registry (ATSDR) กล่าวว่า การได้รับไซยาไนด์จำนวนน้อยก็อาจเป็นอันตรายได้

ไซยาไนด์สามารถเป็นอันตรายต่อหัวใจและสมองและอาจนำไปสู่อาการโคม่าและการเสียชีวิต

ATSDR เสริมว่าผู้คนควรหลีกเลี่ยงการกินเมล็ดแอปเปิ้ลและผลไม้ที่ประกอบด้วย:

ลูกพีช
แอปริคอต
เชอร์รี่

อาการพิษไซยาไนด์สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงหายใจถี่และอาการชัก ทั้งสามารถนำไปสู่การสูญเสียสติ

สรุปว่า...

เมล็ดแอปเปิ้ลมี amygdalin ซึ่งเป็นสารที่ปล่อยไซยาไนด์เข้าสู่กระแสเลือดเมื่อเคี้ยวและย่อยสลาย

คำแนะนำคือ ห้ามเคี้ยวมันเด็ดขาด เพราะไม่ว่ามากหรือน้อย มันคือไซยาไนด์


เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
22.05.2019

เครดิต SaraUpdate จาก blockdit




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติ “แซนด์วิช” sandwich

“บาบา ยากา (Baba Yaga)” แม่มดแห่งสลาวิก

ทำไมมดไม่ขึ้นโรงงานน้ำตาล?