“อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko)” เพชฌฆาตมือหนึ่งแห่งกองทัพโซเวียต
“อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko)” เพชฌฆาตมือหนึ่งแห่งกองทัพโซเวียต
“อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko)” เป็นสไนเปอร์มือหนึ่งของกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไรและทำไมเขาถึงได้รับการยกย่องให้เป็นมือหนึ่งของโซเวียต
ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ชิโดเรนโก้เกิดในครอบครัวชาวนาที่ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ.1919 (พ.ศ.2462) และเมื่อโตขึ้น เขาก็ได้เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะที่ตั้งอยู่ในกรุงมอสโก
ต่อมาในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ชิโดเรนโก้ได้ลาออกจากวิทยาลัยศิลปะและเปลี่ยนไปเข้าร่วมกับกองทัพ
เมื่อเข้าร่วมกับกองทัพ เขาได้ใช้เวลาว่างด้วยการไล่สังหารทหารนาซี โดยเขาจะซุ่มยิงระยะไกลและก็ยิงถูกทุกนัด เป็นที่ถูกใจผู้บังคับบัญชา มอบหมายให้เขาเป็นผู้ฝึกทหารคนอื่นๆ
ชิโดเรนโก้ฝึกสอนทหารได้ดีมาก และในขณะเดียวกันก็ออกไล่ฆ่าทหารนาซีไปด้วย ชื่อเสียงของเขาดังไกลไปถึงทัพนาซี จนทัพนาซีต้องจัดสไนเปอร์ของตนไว้รอบๆ ค่ายของชิโดเรนโก้
ชิโดเรนโก้ได้พาทหารที่เขาฝึกออกรบหลายครั้ง โดนในครั้งหนึ่งเขาสามารถทำลายรถถังและรถแทร็กเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามได้สามคันโดยการใช้กระสุนหัวระเบิด
ต่อมาในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) โซเวียตได้ยกย่องเขาให้เป็นวีรบุรุษแห่งโซเวียต พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้เขาออกรบเองอีก เนื่องจากกองทัพเห็นว่าเขาเป็นผู้ฝึกสไนเปอร์ที่ดีเกินกว่าจะให้ไปเสี่ยงอันตราย
ภายหลังจากสงครามจบลง ได้มีการยืนยันจำนวนทหารที่เขาสังหารไป มีทั้งหมด 500 ศพ และเขาได้ฝึกสไนเปอร์อีกกว่า 250 คน
ต่อมาเขาได้ออกจากกองทัพและไปทำงานเป็นคนงานเหมืองจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) ด้วยวัย 74 ปี
“อิวาน ชิโดเรนโก้ (Ivan Sidorenko)” เป็นสไนเปอร์มือหนึ่งของกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไรและทำไมเขาถึงได้รับการยกย่องให้เป็นมือหนึ่งของโซเวียต
ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ชิโดเรนโก้เกิดในครอบครัวชาวนาที่ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ.1919 (พ.ศ.2462) และเมื่อโตขึ้น เขาก็ได้เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะที่ตั้งอยู่ในกรุงมอสโก
ต่อมาในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) ชิโดเรนโก้ได้ลาออกจากวิทยาลัยศิลปะและเปลี่ยนไปเข้าร่วมกับกองทัพ
เมื่อเข้าร่วมกับกองทัพ เขาได้ใช้เวลาว่างด้วยการไล่สังหารทหารนาซี โดยเขาจะซุ่มยิงระยะไกลและก็ยิงถูกทุกนัด เป็นที่ถูกใจผู้บังคับบัญชา มอบหมายให้เขาเป็นผู้ฝึกทหารคนอื่นๆ
ชิโดเรนโก้ฝึกสอนทหารได้ดีมาก และในขณะเดียวกันก็ออกไล่ฆ่าทหารนาซีไปด้วย ชื่อเสียงของเขาดังไกลไปถึงทัพนาซี จนทัพนาซีต้องจัดสไนเปอร์ของตนไว้รอบๆ ค่ายของชิโดเรนโก้
ชิโดเรนโก้ได้พาทหารที่เขาฝึกออกรบหลายครั้ง โดนในครั้งหนึ่งเขาสามารถทำลายรถถังและรถแทร็กเตอร์ของฝ่ายตรงข้ามได้สามคันโดยการใช้กระสุนหัวระเบิด
ต่อมาในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) โซเวียตได้ยกย่องเขาให้เป็นวีรบุรุษแห่งโซเวียต พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้เขาออกรบเองอีก เนื่องจากกองทัพเห็นว่าเขาเป็นผู้ฝึกสไนเปอร์ที่ดีเกินกว่าจะให้ไปเสี่ยงอันตราย
ภายหลังจากสงครามจบลง ได้มีการยืนยันจำนวนทหารที่เขาสังหารไป มีทั้งหมด 500 ศพ และเขาได้ฝึกสไนเปอร์อีกกว่า 250 คน
ต่อมาเขาได้ออกจากกองทัพและไปทำงานเป็นคนงานเหมืองจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) ด้วยวัย 74 ปี
References: https://www.catdumb.com/ivan-mikhaylovich-sidorenko-378/
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ivan_Sidorenko
https://m.warhistoryonline.com/instant-articles/an-artist-who-became-the-ussrs-most-lethal-sniper-dispatched-over-500-germans.html
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ivan_Sidorenko
https://m.warhistoryonline.com/instant-articles/an-artist-who-became-the-ussrs-most-lethal-sniper-dispatched-over-500-germans.html
เครดิต ประวัติศาสตร์ไทยและเทศ&ภาพเก่าในอดีต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น